06/06/2024
โลกของจอภาพสำหรับเล่นเกมเปลี่ยนไปมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมื่อก่อนคนส่วนใหญ่จะเลือกเล่นเกมบนจอคอมพิวเตอร์หรือทีวี เครื่องโปรเจคเตอร์ไม่ค่อยนิยมเพราะมีอัตราการรีเฟรชภาพ (Refresh Rate) ต่ำและมีอาการหน่วง (Input Lag) สูง แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เครื่องโปรเจคเตอร์สำหรับเล่นเกมในปัจจุบันมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ภาพคมชัด ลื่นไหล ช่วยให้เล่นเกมบนจอใหญ่ได้อย่างเต็มอิ่ม
วิดีโอเกมมีหลายประเภท ให้ประสบการณ์และความสนุกที่แตกต่างกัน ในยุคนี้ เครื่องเล่นเกมคอนโซลอย่าง PS5, Xbox และ Nintendo Switch ได้รับความนิยมมากขึ้น คนที่เล่นเกมคอนโซล การเลือกจอภาพเป็นเรื่องสำคัญ เพราะนอกจากจะเน้นความสนุกในการเล่นเกมแล้ว ยังเน้นการเล่นร่วมกับเพื่อนและครอบครัวด้วย การเล่นเกมบนจอขนาดใหญ่ จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย สบายตา และดื่มด่ำไปกับเกมโปรดได้มากขึ้น เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การเล่นเกมที่สนุกสนานและสมจริง
เปรียบเทียบความแตกต่างของจอเล่นเกมแต่ละประเภท
จอแสดงผลสำหรับเล่นเกม ไม่ว่าจะเป็นจอคอมพิวเตอร์ (Monitor) ทีวี หรือโปรเจคเตอร์เล่นเกม ต่างก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป ซึ่งในบทความนี้เรารวมมาเปรียบเทียบให้แล้ว
ขนาดหน้าจอและความยืดหยุ่นในการติดตั้ง
จอคอมพิวเตอร์และทีวี เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับเกมเมอร์ส่วนใหญ่ เนื่องจากมีอัตราการรีเฟรชภาพสูง (Refresh Rate) อัตราความหน่วงต่ำ (Input Lag) และภาพคมชัด แต่ข้อเสียคือ ถ้าอยากได้ภาพใหญ่ ๆ จอคอมพิวเตอร์และทีวีขนาดใหญ่ก็จะเทอะทะ ขยับเคลื่อนย้ายลำบาก เปลืองพื้นที่ แถมยังไม่ค่อยยืดหยุ่นในการจัดวาง
โปรเจคเตอร์เล่นเกม ไม่มีหน้าจอตายตัว ฉายภาพได้บนผนังเรียบ ๆ โดยไม่ต้องมีกรอบ อยากได้ภาพใหญ่แค่ไหนก็ฉายได้ ขนาดจอภาพฉายได้สูงสุดถึง 300 นิ้ว ในขณะที่จอคอมพิวเตอร์ (27-55 นิ้ว) และทีวี (42-85 นิ้ว) มีขนาดตายตัว นอกจากนี้ โปรเจคเตอร์ยังสามารถติดตั้งบนเพดาน ช่วยประหยัดพื้นที่ และปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้ง่ายกว่า เหมาะกับคนที่ต้องการความยืดหยุ่นในการจัดวาง
ภาพและเสียงสมจริง ดึงคุณเข้าสู่โลกของเกม
จอภาพขนาดใหญ่ของโปรเจคเตอร์ ช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมให้สมจริงยิ่งขึ้น ภาพกราฟิกสุดอลังการจะโอบล้อมคุณราวกับอยู่ในเกมจริง ๆ ในขณะที่ทีวีหรือจอคอมพิวเตอร์ มักจะมีลำโพงในตัวคุณภาพไม่ค่อยดี เสียงเบา นอกจากนี้โปรเจคเตอร์สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะในรุ่นท็อป มักจะมีลำโพงคุณภาพระดับมืออาชีพมาด้วย ทำให้คุณดื่มด่ำกับเสียงอันทรงพลัง คมชัด โดยไม่ต้องต่อลำโพงเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นเสียงสู้รบสุดเร้าใจในเกม Starfield, เสียงบรรยากาศคึกคักของเมือง Night City ใน Cyberpunk 2077 หรือเสียงบรรยากาศกว้างใหญ่ไพศาลใน Red Dead Redemption 2 จึงสรุปได้ว่าการเล่นเกมบนโปรเจคเตอร์ จะมอบประสบการณ์ความสมจริงที่เหนือกว่าจอแสดงผลแบบอื่นๆ
ถนอมสายตา
ทีวีและจอคอมพิวเตอร์ ปล่อยแสงไฟตรงไปยังดวงตาคุณ ซึ่งอาจทำให้เมื่อยล้า ตาแห้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเล่นเกมเป็นเวลานาน ในขณะที่โปรเจคเตอร์ใช้หลักการ สะท้อนแสง จากผนังหรือจอโปรเจคเตอร์ ไปยังดวงตาของคุณ ช่วยลดแสงไฟที่กระทบโดยตรง ทำให้แทบจะไม่มีแสงสีฟ้า (Blue Light) ซึ่งเป็นแสงที่ส่งผลต่อสายตา นอกจากนี้ โปรเจคเตอร์บางรุ่นยังได้รับรองมาตรฐาน Low Blue Light เพื่อสุขภาพดวงตาของคุณโดยเฉพาะ
4 คุณสมบัติเด่นที่ควรรู้ไว้ก่อนซื้อโปรเจคเตอร์สำหรับเล่นเกม
สายเกมคงทราบดีว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ส่งผลต่อประสบการณ์การเล่นอย่างมาก ซึ่งโปรเจคเตอร์สำหรับเล่นเกมกำลังได้รับความนิยมเพราะมันมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่และดื่มด่ำยิ่งกว่า แต่ก่อนตัดสินใจ ควรพิจารณาคุณสมบัติสำคัญเหล่านี้
1. Input Lag (ความหน่วง) และ Refresh Rate (อัตราการรีเฟรชภาพ)
เพื่อการเล่นเกมที่ตอบสนองรวดเร็วและลื่นไหล Input Lag และ Refresh Rate นับว่าเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ต้องพิจารณา
- Input Lag: ความเร็วในการตอบสนอง
ในโลกของเกมทุกมิลลิวินาทีมีความสำคัญ ความล่าช้าเพียงเสี้ยววินาทีก็ส่งผลได้ ดังนั้น เพื่อให้การเล่นเกมราบรื่นและตอบสนองรวดเร็ว ควรเลือกโปรเจคเตอร์ที่มีค่า Input Lag ต่ำที่สุด สำหรับความเร็วตอบสนองที่ดีที่สุด ลองมองหาโปรเจคเตอร์ที่มีค่า Input Lag อยู่ที่ 4.2ms ซึ่งถือว่าเร็วที่สุดในปัจจุบันเพื่อการเล่นที่ตอบสนองรวดเร็วและลื่นไหล
ลองนึกภาพว่าคุณกำลังต่อสู้กับก๊อบลินในแคมป์ของเกม Harry Potter การมีค่า Input Lag ต่ำจะทำให้การกระทำของคุณแสดงผลบนหน้าจอแทบจะทันที ช่วยให้คุณตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว โปรเจคเตอร์เล่นเกม ViewSonic รุ่น X1-4K และ X2-4K มีค่า Input Lag เพียง 4.2ms ที่รวดเร็วฉับไว มาพร้อมกับ Refresh Rate 240Hz และความละเอียด 1080p มอบประสบการณ์การเล่นที่ดื่มด่ำและลื่นไหล อย่าปล่อยให้ความหน่วงรบกวนการผจญภัยของคุณ เลือกโปรเจคเตอร์สำหรับเล่นเกมอย่างชาญฉลาด!
- อัตราการรีเฟรช: ความลื่นไหลของภาพ
อัตราการรีเฟรช คือ จำนวนครั้งที่ภาพบนหน้าจอจะถูกแสดงซ้ำต่อวินาที ยิ่งอัตราการรีเฟรชสูง ภาพก็จะยิ่งดูลื่นไหลและสมจริงมากขึ้น ในทางกลับกัน ถ้าอัตราการรีเฟรชต่ำ อาจทำให้ภาพเบลอ (motion blur) หรือภาพฉีก (screen tearing) ซึ่งรบกวนสายตาและทำให้การเล่นเกมไม่สนุก
ซึ่งโปรเจคเตอร์สำหรับเล่นเกมทั่วไป มักจะมีอัตราการรีเฟรชอยู่ที่ 60Hz แต่ถ้าเน้นเล่นเกมจริงจัง ควรเลือกโปรเจคเตอร์ที่มีอัตราการรีเฟรช 120Hz หรือ 240Hz ยิ่งขึ้นไป อัตราการรีเฟรชที่สูงจะช่วยให้ภาพลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วงเวลา (lag) โดยเฉพาะในฉากแอ็คชั่นที่รวดเร็ว
- อัตราการรีเฟรชกับความละเอียดของภาพ
โปรเจคเตอร์สำหรับเล่นเกมที่มีอัตราการรีเฟรชสูง เช่น 120Hz หรือ 240Hz อาจจะได้ความละเอียดของภาพ (resolution) ส่งผลต่อความคมชัด ดังนั้น คุณไม่ควรยึดติดแค่เรื่องอัตราการรีเฟรชและความเร็วในการตอบสนอง (input lag) เท่านั้น แต่ควรพิจารณาเรื่อง "display timing" ด้วย ซึ่งคำว่านี้หมายถึงการทำงานร่วมกันระหว่างอัตราการรีเฟรชและความละเอียดของภาพ
2. ขนาดหน้าจอสำหรับการเล่นเกมแบบเต็มอิ่ม
ไม่ว่าจะเล่นเกมคอนโซลคนเดียวหรือกับเพื่อน โปรเจคเตอร์เล่นเกม (Gaming Projector) จะมอบประสบการณ์การเล่นเกมสุดเร้าใจบนหน้าจอขนาดใหญ่โต เกิน 100 นิ้ว ได้อย่างง่ายดาย สำหรับเกมแนวสวมบทบาท (RPG) หน้าจอขนาดใหญ่กว่าจอคอมหรือทีวีแบบเดิม ช่วยให้มองเห็นพื้นที่ในเกมได้กว้างขึ้น เหมือนเราได้เข้าไปอยู่ในโลกของเกมจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น หน้าจอใหญ่ยังช่วยเพิ่มความตื่นเต้น อารมณ์ร่วมไปกับเกม และทำให้รู้สึกอินกับบรรยากาศภายในเกมมากยิ่งขึ้น
3. ภาพคมชัด สมจริง เพื่อการเล่นเกมที่เต็มอิ่ม
ภาพที่คมชัดและสมจริง เป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมให้เต็มอิ่มมากยิ่งขึ้น โดยสิ่งที่ต้องพิจารณามีทั้งหมด 3 จุดดังนี้
- ความละเอียด (Resolution):
ความละเอียดของภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการมองเห็น เพราะมันกำหนดระดับของรายละเอียดและความคมชัดของภาพที่แสดงบนหน้าจอ ความละเอียดที่สูงขึ้น เช่น 1080p หรือ 4K จะมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่คมชัดและสมจริงมากยิ่งขึ้น ด้วยความละเอียด 1080p คุณจะมองเห็นทุกรายละเอียดอันแยบยลของโลกในเกม ไม่ว่าจะเป็นเส้นใบหญ้า หรือ พื้นผิวที่ละเอียดบนตัวละคร แต่ถ้าคุณต้องการภาพที่สมจริงที่สุด ความละเอียด 4K จะยกระดับไปอีกขั้น มอบภาพกราฟิกที่สวยงามราวกับมีชีวิต ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในเกมจริง ๆ
- ความสว่าง (Brightness):
ความสว่างของโปรเจคเตอร์จะส่งผลต่อการมองเห็นภาพที่ฉาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีแสงรบกวนรอบข้าง หรือเล่นเกมในเวลากลางวัน ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการเล่นเกมของคุณ ถ้าคุณมักจะเล่นเกมในห้องที่ควบคุมแสงได้ง่าย ควรเลือกโปรเจคเตอร์ที่มีความสว่างสูงอย่างน้อย 2,900 LED Lumens แต่ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์ตัวยิง เล่นเกมจอใหญ่ได้ทุกเวลาแม้กลางวัน โปรเจคเตอร์สำหรับเล่นเกมที่มีความสว่าง 3,500 ถึง 4,000 ANSI Lumens จะเหมาะสมกว่า
- ค่าความต่าง (Contrast Ratio)
จินตนาการว่าคุณอยู่ในป่าต้องห้ามของฮอกวอตส์ยามค่ำคืนมืดสนิท การที่มีค่าความต่าง(Contrast Ratio) สูง จะช่วยให้คุณมองเห็นรายละเอียดทั้งหมดแม้ในฉากมืด คุณจะสามารถหาศัตรูได้ง่ายและร่ายเวทมนต์โจมตีก่อนที่จะถูกฆ่า! ค่าความต่างของโปรเจคเตอร์สำหรับเล่นเกม หมายถึงความแตกต่างระหว่างจุดที่สว่างที่สุดกับจุดที่มืดที่สุดของภาพ โปรเจคเตอร์บางรุ่นใช้ชิป DMD Texas Instrument 0.65 นิ้ว ซึ่งมีค่าความต่างที่สูง ช่วยให้เกมของคุณสมจริงยิ่งขึ้น
4. ประสิทธิภาพเสียงเพื่อประสบการณ์โสต-ภาพอันน่าดึงดูด
การเลือกโปรเจคเตอร์สำหรับเล่นเกมที่มีลำโพงในตัวจะช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมของคุณได้อย่างมาก ช่วยให้การตั้งค่าระบบความบันเทิงง่ายขึ้น และยังช่วยให้คุณประหยัดงบประมาณจากการซื้อลำโพงเพิ่มเติมอีกด้วย โปรเจคเตอร์ ViewSonic มีลำโพงระดับโรงภาพยนตร์จาก Harman Kardon เมื่อรวมกับหน้าจอแสดงผล 4K HDR และขนาดหน้าจอที่ใหญ่ถึง 300 นิ้ว สร้างประสบการณ์โสต-ภาพอันน่าดึงดูดที่จะดึงคุณเข้าสู่โลกแห่งความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบ
สรุปบทความ
โปรเจคเตอร์สำหรับเล่นเกม ได้พัฒนาไปไกลกว่าที่เกมเมอร์คาดหวัง ด้วยประสบการณ์การเล่นที่เหนือกว่าจอแสดงผลแบบเดิม ภาพในเกมใหญ่ เต็มตา พร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยถนอมสายตา ทำให้โปรเจคเตอร์สำหรับเล่นเกมกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของเทคโนโลยีสำหรับเกม ซึ่งในตอนท้ายนี้เราขอสรุปปัจจัยทั้ง 4 ข้อที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อมาให้ ดังนี้
- Input lag, refresh rate, and display timing: ค่าเหล่านี้ส่งผลต่อความหน่วงของภาพ ยิ่งน้อย ยิ่งลื่นไหล เล่นเกมได้แม่นยำ
- ขนาดหน้าจอ: โปรเจคเตอร์เล่นเกม ให้ภาพใหญ่จุใจ แต่ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ใช้งานด้วยนะครับ
- ประสิทธิภาพของภาพ (ความละเอียด, ความสว่าง, ค่าคอนทราสต์): ความละเอียดสูง ภาพคมชัด ความสว่างเหมาะกับสภาพแวดล้อม ค่าคอนทราสต์ยิ่งต่าง ภาพยิ่งมีมิติ
- เสียง (ลำโพงในตัว): ถ้าเน้นเล่นเกมอย่างเดียว ลำโพงในตัวอาจจะเพียงพอ แต่ถ้าอยากได้อรรธรสเต็มที่ อาจจะต้องต่อลำโพงเพิ่ม